คำว่า "ขอโทษ" ในภาษาญี่ปุ่น

วันนี้ขอเสนอคำว่า "ขอโทษ" ในภาษาญี่ปุ่นค่ะ

ขอโทษ => あやまる => ayamaru


>>>คำแรกคือคำว่า

ごめんなさい。 => gomennasai => โกะเมนนะไซ


มีความหมายว่า "ขอโทษครับ / ค่ะ" ใช้ในกรณีที่เราทำผิด หรือต้องการที่จะแสดงความรู้สึกเสียใจ ความรู้สึกรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำค่ะ เหมือนคำว่า sorry ในภาษาอังกฤษ แต่หากพูดกับเพื่อนด้วยกัน อาจลดคำลงเหลือแค่คำว่า

ごめん => gomen => โกะเมน


ก็สามารถใช้ได้ค่ะ แต่จะดูห้วนๆ แบบว่า ขอโทษ โทษที ประมาณนั้นค่ะ หรืออาจจะเป็นคำว่า

ごめんね => gomenne => โกะเมนเนะ


เอา เนะ มาต่อท้ายเป็นสร้อยเพื่อไม่ให้ประโยคดูห้วนเกินไป มีความหมายว่า "ขอโทษนะ" ค่ะ

>>>คำว่า "ขอโทษ" ในแบบที่สองคือคำว่า

すみません。 => sumimasen => สุมิมะเซง


มีความหมายว่า "ขอโทษครับ / ค่ะ" เช่นกัน แต่จะใช้ในกรณีที่เราต้องการจะทำอะไรซักอย่างที่เป็นการรบกวน หรือขัดจังหวะของเขา หรือเธอคนนั้นค่ะ เช่น "ขอโทษครับ ผมขอเก้าอี้ตัวนี้ได้มั้ยครับ" แบบนี้ค่ะ เหมือนคำว่า Excuse me ในภาษาอังกฤษค่ะ และคำว่า

もうしわけ ありません。 => moushiwake arimasen => โมชิวะเคะ อะริมะเซน


ก็มีความหมายเช่นเดียวกันกับคำว่า สุมิมะเซง ค่ะ แต่จะดูสุภาพกว่า สามารถใช้แทนกันได้ค่ะ

การแนะนำตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่น

การแนะนำตัวเอง => じこしょうかい => jikoshoukai


>>แบบแรกนะคะ เป็นการแนะนำตัวเองแบบทางการค่ะ (แบบสุภาพนั่นเอง ใช้กับคนที่อายุมากกว่า หรือคนที่เราเคารพนับถืออ่ะค่ะ)

>>>>การเจอกันครั้งแรก คำว่า สวัสดี จะใช้คำว่า

はじめまして。=> hajimemashite => ฮาจิเมะมะชิเตะ

>>>>จากนั้นเราก็จะตามด้วยชื่อนะคะ พูดได้อย่างนี้ค่ะ (สมมติว่าชื่อ "ฮายาชิ" นะคะ)

はやしです。=> hayashidesu => ฮายาชิเดส


ซึ่งก็คือ "ชื่อ + เดส" นั่นเองค่ะ


>>>>แล้วก็จะปิดท้ายด้วยประโยคนี้ค่ะ


どうぞよろしく おねがいします。
=> douzoyoroshiku onegaishimasu =>
โดโซะโยะโระชิกุ โอเนะไงชิมัส

ซึ่งแปลว่า ยินดีที่ได้รู้จักครับ / ค่ะ


มาดูตัวอย่างแบบเต็มๆกันดีกว่าค่ะ

"สวัสดีครับ ผมชื่อฮายาชิ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"

はじめまして。はやしです。どうぞよろしく おねがいします。


>>ส่วนแบบที่สองนะคะก็จะเป็นการแนะนำตัวเองแบบไม่เป็นทางการ (ใช้กับคนที่อายุน้อยกว่า หรืออายุเท่าๆกันค่ะ)

>>>>การเจอกันครั้งแรก คำว่า สวัสดี จะใช้เหมือนแบบแรกเลยค่ะ ก็คือคำว่า

はじめまして。=> hajimemashite => ฮาจิเมะมะชิเตะ

>>>>จากนั้นเราก็จะตามด้วยชื่อนะคะ พูดได้อย่างนี้ค่ะ (สมมติว่าชื่อ "ฮายาชิ" นะคะ)

はやしです。=> hayashidesu => ฮายาชิเดส

>>>>แล้วก็จะปิดท้ายด้วยประโยคนี้ค่ะ

どうぞよろしく。=> douzoyoroshiku => โดโซะโยะโระชิกุ


ซึ่งแปลว่า ยินดีที่ได้รู้จักนะ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าไม่มีคำว่า โอเนะไงชิมัส แล้วนะคะ


มาดูตัวอย่างแบบเต็มๆกันอีกครั้งเลยค่ะ

"สวัสดีครับ ผมชื่อฮายาชิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"

はじめまして。はやしです。どうぞよろしく

การบอกลาแบบง่ายๆ ในภาษาญี่ปุ่น

หลังจากรู้จักกับการทักทายในสไตล์ญี่ปุ่นกันไปแล้วนะคะ วันนี้เราก็จะมารู้จักการบอกลาที่ใช้กันทั่วไปของคนญี่ปุ่นกันบ้างนะคะ

>>>คำแรกก็คือคำว่า



さようなら => sayounara หรือ sayonara => ซาโยนาระ


มีความหมายว่า "ลาก่อน" คนไทยอาจไม่คุ้นกับคำว่าลาก่อน เนื่องจากมันจะดูเศร้าๆ สำหรับคนญี่ปุ่นก็เช่นกัน คำว่า ซาโยนาระ ใช้ในกรณีที่ต้องจากกันโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีกหรือไม่ หรืออาจจะใช้เมื่อต้องการที่จะประชดประชันแบบว่า "อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ" เหมือนเวลาพระเอกกับนางเอกในการ์ตูนญี่ปุ่นเค้างอนกัน หรือบอกเลิกกันนั่นเอง

>>>มาต่อกันที่คำว่า


またあいましょう => mataaimasho => มาตะไอมาโช่


มีความหมายว่า "แล้วเจอกันอีกนะ" เป็นการบอกลาที่ใช้ได้ทั่วไปค่ะ และยังมีความสุภาพ สามารถใช้จบการสนทนาได้อย่างมีมารยาท ถึงแม้ว่าเราจะได้เจอเขาอีกหรือไม่ก็ตามค่ะ

>>>และคำสุดท้ายของวันนี้คือคำว่า


じゃ、またね => ja, matane => จา, มะตะเนะ


มีความหมายว่า "บาย แล้วเจอกันอีกนะ" เป็นคำง่ายๆค่ะ ใช้แล้วดูน่ารัก เป็นกันเอง หากเพื่อนๆนึกภาพไม่ออก ก็ให้นึกถึงเวลาที่เราบอกลาเพื่อนเวลาเลิกเรียน หรือเลิกงานค่ะ

การทักทายในสไตล์ญี่ปุ่นๆ

เรามาเริ่มรู้จักกับคำทักทายของคนญี่ปุ่นกันก่อนเลยนะคะ โดยเราจะมาเริ่มกันจากคำว่า "สวัสดี" ซึ่งสวัสดีของคนญี่ปุ่นก็จะแบ่งออกเป็น สวัสดีตอนเเช้า สวัสดีตอนบ่าย และสวัสดีตอนเย็นค่ะ


การทักทาย : あいさつ => aisatsu


สวัสดีตอนเช้าในภาษาญี่ปุ่น : 


おはよう(ございます)=> ohayou (gozaimasu) => โอะฮะโย (โกะไซมะสึ)


แต่เวลาคนญี่ปุ่นพูดกันจะพูดกันเร็วจน "มะสึ" จะออกเสียงเป็น "มัส" เวลาพูดก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ "โอะฮะโย (โกะไซมัส)" ที่เรามีคำว่า โกะไซมัส ต่อท้ายเพราะว่าทำให้อยู่ในรูปที่สุภาพค่ะ(แบบทางการ) แต่ถ้าเราพูดกับ พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือว่าเพื่อน และก็คนที่สนิทๆกัน แค่ "โอะฮะโย" ก็พอแล้วค่ะ


สวัสดีตอนบ่ายในภาษาญี่ปุ่น :

こんにちは => konnichiwa => คนนิจิวะ

สวัสดีตอนเย็นในภาษาญี่ปุ่น : 

こんばんは => kombanwa => คมบังวะ